การดูแลผิวหน้าเมื่อมีเวลาพักผ่อนน้อย
สาระน่ารู้จาก นพ.จักกฤษณ์ อัครเศรณี แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ เวลาเป็นเงินเป็นทอง และแข่งขันกันสูงอย่างในปัจจุบัน ทำให้คุณภาพชีวิตของหลายๆ คนแย่ลง ทั้งจากการที่ทานอาหารไม่ตรงเวลา ไม่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำสะอาดและได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เครียดจากหน้าที่การงาน ขาดการออกกำลังกาย รวมไปถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย  ซึ่งผู้เชียวชาญส่วนมากมักจะแนะนำให้พักผ่อนใน สภาวะที่เหมาะสมและได้นอนหลับอย่างเต็มที่วันละ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปได้ยากในชีวิตคนเมืองปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ส่งผลให้สุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวพรรณทรุดโทรมรุดหน้าเกินกว่าวัยไปตามๆกัน

ดังนั้นการเข้าใจถึงผลกระทบต่อผิวพรรณจากการที่พักผ่อนไม่เพียงพอนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกท่านปรับตัว และดูแลผิวกันอย่างถูกวิธีมากยิ่งขึ้น 

ก่อนอื่นเราต้องทราบกันก่อนว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิว โดยเฉพาะผิวหน้าได้อย่างไร??

1.เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีระดับ stress hormone (Cortisol) สูงขึ้น ซึ่งการที่ ร่างกายจะมีระดับ stress hormone (Cortisol) นั้น มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ

  • ความแข็งแรงและสภาวะปกติของผิวโดยตรง โดยพบว่าจะเกิดภาวะไวต่อการแพ้และอักเสบของผิวได้ง่ายขึ้น   ซึ่งมักจะทำให้เกิดผื่นแพ้ชนิดต่างๆ รวมไปถึงโรคอื่นๆที่เกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกันของผิวอีกด้วย
  • ผิวหน้าที่มันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณสิวและสิวอักเสบเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
  • Metabolism ของเซลล์ต่างๆสูงขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงต่อ Aging Process ของผิว ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเกินกว่าวัย

2.Collagen ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิว โดยปกติ Collagen จะมีการสร้างที่สมบูรณ์ในภาวะที่มีการนอนหลับที่เพียงพอทั้งในเรื่องของเวลาและคุณภาพเท่านั้น  ซึ่งเมื่อมีการสร้างหรือซ่อมแซม Collagen ไม่เพียงพอ จะส่งผลทางตรงต่อผิวคือ การแก่ชราก่อนวัยอย่างชัดเจน  และส่งผลในทางอ้อมคือ เมื่อร่างกายสร้าง Collagen ได้ไม่เพียงพอ ผิวจะสูญเสียความแข็งแรงไป ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และความสามารถในการป้องกันผิวจากสารเคมี  มลภาวะ  แสงแดด รวมถึงเชื้อโรคต่างๆได้ลดลง จึงทำให้ผิวแห้งกร้านในบางคน ดูแก่กว่าวัย และมีสิวอักเสบเพิ่มมากขึ้นด้วย

3.เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะไปกระตุ้นให้มีการหลั่ง Hormone จากต่อมใต้สมองหลายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งใน Hormone ที่ถูกหลั่งออกมามากขึ้นด้วยคือ Hormone ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในร่างกาย (melanocyte) ส่งผลให้สภาพผิวโดยรวมดูหมองคล้ำ และยิ่งดูแย่มากยิ่งขึ้นเมื่อรวมกับซ่อมแซมผิวที่แย่ลงจากที่แสดงไว้ในข้อ 2

โดยสรุปก็คือ เมื่อพักผ่อนน้อย ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผิวของเราคือ 

ผิวหมองคล้ำขึ้น ไวต่อการแพ้ การอักเสบ ติดเชื้อและผื่นคันแดงเกิดง่ายขึ้น  ส่วนผิวที่แห้งอยู่แล้วก็จะยิ่งแห้งกร้านและเป็นขุยมากขึ้น  และสำหรับบางคนที่มีปัญหาหน้ามันอยู่แล้วก็จะยิ่งหน้ามันมากขึ้นรวมถึงมีสิวอักเสบมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดริ้วรอยแห่งวัยรวดเร็วขึ้นด้วย

ดังนั้นเมื่อทราบแล้วว่า การพักผ่อนน้อยรวมถึงความเครียดส่งผลกระทบต่อผิวของเรามากมายเพียงใด ซึ่งจริงๆ แล้ววิธีแก้ไขง่ายๆ เลยก็คือการพักผ่อนให้มากขึ้น  ออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่ในเมื่อหลายๆ ท่านไม่สามารถทำได้ ก็ต้องมาดูวิธีดูแลอื่นๆ ที่จำเป็นและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันครับ

  1. สำหรับท่านที่มีปัญหาหน้ามันและมีสิวเห่อ ต้องพยายามรักษาหน้าให้แห้งมากขึ้น ด้วยการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าที่มี  สารช่วยลดความมันบนใบหน้า กลุ่ม AHA BHA ซึ่งก็มีข้อควรระวังคือ อาจเกิดอาการระคายเคืองหากไม่เคยใช้มาก่อน ดังนั้นควรเริ่มใช้จากปริมาณและความถี่น้อยๆ ก่อนสักระยะ และควรพบแพทย์หากมีสิวมากขึ้นเพื่อรับยากลุ่มยาฆ่าเชื้อทั้งรูปทาหรือทาน เพื่อไม่ให้มีสิวอักเสบมากเกินไป เนื่องจากสิวอักเสบเหล่านี้จะทิ้งแผลและรอยดำในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการล้างหน้าบ่อยขึ้นหรือ แกะ บีบ สิวเนื่องจากจะทำให้อาการโดยรวมยิ่งแย่ลง จนกลายเป็นหลุมสิวหรือสิวอักเสบเรื้อรังในที่สุด

  2. ในกรณีที่ผิวแพ้มาก มีอาการแสบ แห้ง ลอก หรืออาการแพ้ ผื่นคัน ควรหาครีมบำรุงที่ไม่กระตุ้นการเกิดสิวมาใช้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่อ่อนแอและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ซึ่งครีมบำรุงนี้จะทำให้อาการแสบแดงแห้งลอกทุเลาลงได้

  3. หาครีมที่มีส่วนประกอบของสารออกฤทธ์กดการสร้างของเซลล์เม็ดสี เช่น  Deoxy arbutin ,Alpha Arbutin ,Kojic Acid หรือ 5% Vitamin C มาใช้ รวมถึงทานวิตามินเสริมในกลุ่ม Vitamin C B3 B5 E และ Glutathione เพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่มากขึ้นในช่วงเวลาที่พักผ่อนน้อย

  4. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดๆ เป็นระยะเวลานานๆ ร่วมกับใช้ครีมกันแดดชนิด Physical Sunblock ที่มีค่า SPF สูงๆ และ PA +++ เนื่องจากช่วงนี้ผิวหน้าอ่อนแอมาก และมีปัจจัยที่ทำให้ดำคล้ำได้ง่าย ถ้ายิ่งถูกแดดก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวดำคล้ำมากขึ้น นอกจากนี้ข้อดีของ Physical Sunblock คือช่วยลดความมันของผิวและไม่กระตุ้นให้เกิดสิวอีกด้วย

  5. หากปัญหาการแพ้หรือสิวเป็นมากขึ้น ควรรีบพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ลุกลาม แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรกดสิวหรือฉีดสิวโดยไม่จำเป็น  เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาระยะยาวได้มาก  ทั้งเรื่องหลุมสิว รอยดำ และปัญหาสิวเรื้อรัง

  6. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากขึ้นมากกว่าปกติ เนื่องจากช่วงนี้ ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นไปได้ง่าย จากการที่กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันและ Collagen ของผิวหนังอ่อนแอลง 

อย่างไรก็ตามคำแนะนำข้างต้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้นครับ  ยังไงก็ไม่สามารถชดเชยการพักผ่อนจริงๆ ได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การนอนพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อผิวสุขภาพดี  แข็งแรง ขาวใส ไม่มีสิวครับ

ลิขสิทธ์ของ  บริษัทบีซีไบโอแคร์ จำกัด