กินอย่างไรไม่ให้ป่วย กินอย่างไรให้ผิวพรรณสดใส
สาระน่ารู้จาก นพ.จักกฤษณ์ อัครเศรณี แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง

หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า You Are What You Eat หรือแปลง่ายๆคือกินอย่างไรได้อย่างนั้น
ดังนั้นหากเรามีความรู้ในการทานอาหารมากเพียงพอและมีวินัยในการทานอาหาร เราก็จะมีสุขภาพแข็งแรงได้เสมอ และหลักการทานอาหารเพื่อบำรุงหรือดูแลสุขภาพก็เหมือนกับการดูแลสุขภาพผิวพรรณไปในตัวด้วย
เนื่องจากเมื่อร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย สุขภาพผิวพรรณก็จะพลอยสดใส อ่อนวัยตามไปด้วยเสมอ
หลักการง่ายๆ ที่ควรยึดปฏิบัติเพื่อผิวสวยและสุขภาพดี มีดังนี้

1 .ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งประกอบไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน น้ำ รวมถึงใยอาหาร
ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ เป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกาย จำเป็นต้องได้รับอย่างเพียงพอ โดยควรทานอาหารหลากหลายชนิด หมุนเวียนกันไป เพราะไม่มีอาหารชนิดใดเพียงชนิดเดียว ให้สารอาหารที่ครบทุกอย่าง

2 . ควบคุมอัตราส่วนของสารอาหารแต่ละชนิดให้เหมาะสม โดยมีค่าโดยประมาณจากค่าพลังงานที่ร่างกายควรได้รับต่อวันดังนี้
คาร์โบไฮเดรต 55-65% โปรตีน 10-15% ไขมัน 20-30% หากได้ปริมาณสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ก็จะก่อให้เกิดโรคตามมามากมาย เช่น โรคอ้วน เบาหวานและโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน

3 . กินผักและผลไม้เป็นประจำ ผักและผลไม้ เป็นแหล่งแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เช่น วิตามิน C ซึ่งมีเยอะในผลฝรั่งช่วยกันแสงแดด กดการสร้างเม็ดสี ป้องกันการเกิดภูมิแพ้ วิตามิน A
ซึ่งมีเยอะในผลไม้และผักที่มีสีเหลือง แดง ส้ม ช่วยบำรุงระบบต่อต้านเชื้อโรค บำรุงผิว บำรุงสายตา, วิตามิน E
ซึ่งมีเยอะในผักใบเขียว เมล็ดถั่ว จะช่วยชะลออวัย บำรุงผิว ผม เล็บ ,และสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้มากในพืชตระกูล
บล็อกโคลี่ กะหล่ำ องุ่นและเบอรี่ชนิดต่างๆ ซึ่งช่วยชะลอวัย ลดการเกิดภูมิแพ้
ป้องกันแสงแดดและป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยทำให้อิ่มเร็ว
ช่วยลดการดูดซึมไขมันและคาร์โบไฮเดรต การทานผักผลไม้เป็นประจำจึงช่วยควบคุมน้ำหนักไปในตัวด้วย
แต่อย่างไรก็ตามการทานผลไม้ที่หวานจัด ในปริมาณมากเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำหนัก และเบาหวานตามมา
เช่น สัปปะรดที่มีความเข้าใจผิดอยู่มากว่าช่วยลดความอ้วนได้ แต่จริงๆ
แล้วยิ่งทานยิ่งอ้วนเพราะน้ำตาลสูงมากๆ
ดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามควรทานแค่ปริมาณที่พอเหมาะเสมอ

4 . รับประทานอาหารที่มีกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสม่ำเสมอ เช่น Omega 3, Omega6 นอกจากจะช่วยป้องกันโรคหัวใจแล้ว
ยังช่วยบำรุงสมองและผิวให้สวยใสอีกด้วย อาหารที่มี Omega3 สูงได้แก่ ปลาทะเล อาหารทะเล เมล็ดพืช ถั่วต่างๆ
และน้ำมันมะกอก น้ำมันจากเมล็ดพืช ส่วน Omega 6 พบได้มากใน เนื้อสัตว์ ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม อย่างไรก็ตามไม่มีความจำเป็นใดๆ
ต้องซื้ออาหารเสริมเหล่านี้มาทาน เนื่องจากเกินความจำเป็นและอาจก่อให้เกิดโทษได้เช่น อ้วนหากปริมาณมากเกินไป
และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจถ้าอัตราส่วนของ Omega 3
และ Omega 6 มีปริมาณที่ไม่เหมาะสม

4 . หลีกเลี่ยงไขมันจากเนื้อสัตว์ หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันมากๆ เช่น หมูกระทะ เบคอน ข้าวขาหมู เนื้อติดมัน
ควรทานแค่บางโอกาสและทานให้น้อยลง เนื่องจากก่อให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดอุดตันที่สมองและหัวใจ
รวมถึงไม่ควรใช้น้ำมันจากสัตว์และน้ำมันปาล์มมาทำอาหารด้วย ควรใช้น้ำมันพืชที่ไม่มีกรดไขมันอิ่มตัว
เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย ซึ่งนอกจากช่วยลดการเกิดโรคดังกล่าวได้แล้ว
น้ำมันเหล่านี้ยังอุดมไปด้วย วิตามิน E และ สารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอวัย ต้านมะเร็ง ลดภูมิแพ้และบำรุงผิว ผม เล็บอีกด้วย

5 . ควรรับประทานแหล่งอาหารที่มีแคลเซียมสูงเป็นประจำ เช่น นมสดและโยเกิร์ต เต้าหู้ ปลาตัวเล็กทั้งตัว ก้างปลาทอด
โดยเฉพาะสุภาพสตรีทุกท่าน ซึ่งมีโอกาสที่จะสะสมแคลเซียมในกระดูกได้จนถึงอายุ 30 ปี หลังจากนั้นแคลเซียมในกระดูกจะลดลง และมีโอกาสเกิดโรคกระดูกบางหลังหมดประจำเดือน

สำหรับท่านที่ควบคุมน้ำหนักหรือมีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูงควรเลือกรับประทานเป็นนมพร่องมันเนย
หรือไขมันต่ำแทนหรือหากไม่สามารถคุมน้ำหนักหรือควบคุมไขมันได้ การใช้ยาเม็ดเสริมแคลเซียมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม

6 . หลีกเลี่ยงการทานอาหารดิบ โดยเฉพาะอาหารที่ทำจากปลาน้ำจืดดิบ หอยน้ำจืด (หอยน้ำจืด แม้จะปรุงสุกก็ยังมีโอกาสที่ไข่พยาธิจะไม่ตายและหลบซ่อนที่เปลือกหอยอยู่) เพราะว่าเป็นพาหะของพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิอันตรายอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดโรคตามมามากมาย รวมถึงมีโอกาสสูงที่จะเป็นมะเร็งในท่อน้ำดีด้วย

7 . รับประทานน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ประมาณวันละ 1500-2000 cc
โดยการพยายามดื่มน้ำมากกว่านี้โดยร่างกายไม่ต้องการเป็นความเชื่อที่ผิด ดังนั้นควรดื่มน้ำปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการของร่างกาย
และควรหลีกเลี่ยงกลุ่มน้ำหวานต่างๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน นมเปรี้ยว น้ำหวานหลอกลวงที่โฆษณาว่าทำให้สวย ผอม ขาวที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ
เนื่องจากไม่มีประโยชน์ เปลืองเงิน ทำให้อ้วนและอาจก่อปัญหาสุขภาพตามมาอีกมากมาย

หากต้องการทานน้ำอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ขอให้ทานเป็นชาชนิดต่างๆ ที่ไม่มีน้ำตาลหรือไม่หวานแทน
เนื่องจากชาเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งและชะลอวัยได้
อย่างไรก็ตามมีเกร็ดความรู้ที่อยากฝากไว้เพิ่มเติม เนื่องจากเจอกับคนไข้บ่อยมากๆ คือ
ปัญหาเรื่องกาแฟลดความอ้วนและโยเกิร์ต ลดความอ้วน ของเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงในโลก มีแต่ยิ่งทานจะยิ่งทำให้อ้วน
ดังนั้นได้โปรดอย่าหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา

หากทำได้ตามนี้คุณก็จะมีสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัยมาเบียดเบียน ผิวสวยใสและดูอ่อนเยาว์
กว่าคนอื่นๆ ไปอีกนาน ฝากประโยคทิ้งท้ายไว้คือ
You Are What You Eat , You Eat What You See กินเท่าที่เห็น เป็นอย่างที่กิน ไม่มองมาก ไม่เห็นมาก ก็ไม่กินมากครับ)

ลิขสิทธ์ของ  บริษัทบีซีไบโอแคร์ จำกัด